“การเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น ไม่ว่าเรือจ้างจะอยู่ในรุ่นใด ปลายทางการทำงานของเรือจ้าง
คือการนำเด็ก ๆ ไปถึงฝั่ง ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะมีอุปสรรคมากน้อยเพียงใด
สุดท้ายเด็ก ๆ ของเราจะเป็นคนดีของสังคมเรือจ้างอย่างเราก็รู้สึกว่างานของเรามีคุณค่า มากกว่า
ทรัพยสินเงินทอง”
เรือจ้าง 5G by ครูปุ้ย ครูผู้สอนจิตวิทยาแนะแนว โรงเรียน บดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี นนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
จากเด็กธรรมดาทั่วไป เกิดและเรียนที่จังหวัดสิงห์บุรี ตั้งแต่อนุบาลถึงประถมศึกษาตอนต้น และได้ย้ายไปเรียนที่จังหวัดสระบุรีจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น จากนั้นก็มาสอบต่อมัธยมศึกษาตอนปลายที่จังหวัดลพบุรี
และศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา คณะคุรุศาสตร์สาขาจิตวิทยาและการแนะแนว
แนะนำ
ครูบุญญฤทธิ์ ญาณสาลี จากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นนทบุรี จังหวัดนนทบุรี (อายุ 26 ปี)
เป็นสมาชิก Brand Ambassador ของ TEDx Bangkok มีชมรม ชื่อ like สาระ by TEDx Club YC
ในโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นนทบุรี
รางวัลในโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น
- ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดวิดีโอ Hands Up Media 2 ชื่อผลงาน "Cyber Bully"
- ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษา การประกวดเรื่องราวความเปลี่ยนแปลง SILA5 SMART IDOL
ประจำปี 2563
- ได้รับรางวัลชมเชย แคมเปญ Sila5 Smart School ประจำปี 2563 การนำเสนอผลงานระดับ 1-2
“การมีความฝันที่อยากเป็นครู”
ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้คิดนะครับ เพราะอยากเรียนนิติศาสตร์มากแต่เนื่องจากต้องเรียนคณิตศาสตร์ด้วย ซึ่งเราทำคะแนนได้ไม่ดีจึงต้องพับไป ต่อมาก็ลองมาดูตัวเอง เราชอบอะไร ในช่วงมัธยมศึกษาเราก็ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนการ
ขับเสภา อ่านทำนองเสนาะ การเขียนคัดไทย จึงตั้งเป้าจะเป็นครูภาษาไทย แต่สุดท้ายเราก็ได้เป็นครูจิตวิทยาแนะแนว
ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเรียนจิตวิทยาแนะแนวมาแล้วจะเป็นอะไร แต่พอได้ศึกษาเพิ่มเติมจึงได้รู้ว่าจบไปต้องเป็นครูแนะแนว งานที่ต้องมีทักษะการพูดการสื่อสาร การโน้มน้าวใจเด็ก การสอนให้เด็กอยากจะเรียนรู้การใช้ชีวิต โดยอาจเอาประสบการณ์ของตนเองไปเล่าให้เด็กๆฟัง เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้
จากวันนั้นเรามองย้อนกลับไปว่าถ้าเราไม่ได้เลือกเรียนจิตวิทยาในวันนั้นก็จะไม่มีเราในวันนี้ เหมือนฟ้าเลือกมาแล้วว่าให้เราเป็นครูแนะแนว ที่จะสานต่อในเรื่องการช่วยเหลือ
จิตวิทยาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรู้จักตนเอง พอเราเรียนรู้ตัวเอง มีประสบการณ์ทั้งในด้านดีและไม่ดี เราก็สามารถเอามาสอนเด็กได้หมดเลย
“หัวใจของจิตวิทยาแนะแนวคืออะไร”
งานหลักของงานแนะแนว หัวใจสำคัญคือการให้คำปรึกษา กับผู้ขอรับคำปรึกษา เมื่อคนที่มีปัญหาเดือดร้อน
มาปรึกษาเรา เราก็จะเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาที่มีจรรยาบรรณ ทำให้คนที่มาปรึกษาเรา ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด
“มุมมองด้านงานสอนศีลธรรมของครูปุ้ยเป็นอย่างไร
ในสมัยก่อน วิชาพระพุทธศาสนาเป็นวิชาที่น่าเบื่อ ไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีการสอนที่สามารถนำมาบูรณาการให้มัน
น่าสนุก เพราะเมื่อเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่2 ปีที่3 ปีที่4 ปีที่5 ก็เรียนเหมือนเดิมแต่มีความลึกมันต่างกัน มันทำ
ให้น่าเบื่อ
“ทำไมงานสอนศีลธรรมถึงสำคัญ ในมุมมองของครูปุ้ย”
เหมือนหลักปรัชญาของในหลวง เมื่อก่อนอาจมีคำที่บอกว่า มีความรู้คู่คุณธรรม แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป จึงมีความคิดที่ว่าคุณธรรรมต้องนำความรู้ ผมต้องการเด็กดีมากกว่าเด็กเก่ง เก่งแต่ไม่ใช่คนดีจะทำให้เด็กอยู่กับสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นไปได้ยาก
แต่สิ่งที่จะทำให้เด็กๆ อยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุขนั้นก็คือความดี เราจึงควรจะสอนให้เด็กมีคุณธรรม เด็กเราควรมีหลักคุณธรรมพื้นฐานอยู่ในตัวเอง เพื่อเป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพราะทุกคนใช้หลักเดียวกัน คือ เราใช้หลักศีล 5 เหมือนกัน หลักอริยสัจ 4 เหมือนกัน มันก็จะเป็นมาตรฐานที่ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เป็นพลเมืองที่ดีของสังคม
“แล้วจิตวิทยาแนะแนวเกี่ยวข้องกับศีลธรรมอย่างไร”
โดยงานจิตวิทยา จะแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และส่วนตัวและสังคม โดยผมจะให้ความสำคัญกับข้อที่ 3 ส่วนตัวและสังคมสำคัญกว่าทั้ง 3 ข้อ เพราะถ้าคุณไปศึกษาต่อที่ไหน ไปประกอบอาชีพต่างๆ แต่คุณลืมรากเหง้าของคุณธรรม ความดีที่หล่อหลอมคุณมาตั้งแต่เด็ก มันก็จะทำให้การงานคุณเสียการศึกษาต่อคุณอาจพลิกไปอีกแบบก็ได้ โดยจิตวิทยาสามารถสอดแทรกคุณธรรมได้อยู่แล้วครับ
“ศีลธรรมกับ Life Style วัยรุ่น ในมุมมองของครูปุ้ย
เด็กสมัยนี้จะมีความคล่องแคล่วเรื่องของสื่อ โซเซียลมีเดีย กิจกรรมต้องมีความทันสมัยมากขึ้น สื่อต้องเข้าถึงได้มีความสนุก ต้องบูรณาการ ต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ต้องพลิกกิจกรรมให้ออกนอกห้องเรียน เพราะพื้นฐานเด็กไม่ชอบอยู่ในห้อง และไม่ชอบการบังคับอยู่แล้วนะครับ
ผมเริ่มให้เด็กทำกิจกรรมง่ายๆ แต่ได้ผล เช่น เดินเก็บขยะในโรงเรียน ไม่ได้ตั้งใจเดินไปเก็บนะครับ แต่เป็นทางเดินเด็กก็สามารถทำความดีง่ายๆ จากการเก็บขยะ ชิ้น 2 ชิ้น และให้คะแนนความดีไป
เด็กก็จะรู้ว่าความดีเป็นสิ่งง่ายๆ สามารถทำได้เลย โดยกิจกรรมต้องไม่ซ้ำกัน ไม่รู้สึกว่าเครียด อายุผมจะอยู่ใกล้เคียงกับเด็ก ดังนั้นการเล่น Facebook IG เราจะไม่ปิดกั้นเด็ก เราจะ open กับเด็ก
เด็กคนไหนที่อยู่บดินทร์นนทบุรีขอเป็นเพื่อนผมรับหมด ผมคิดว่าในเพจเราจะแชร์การศึกษาต่อ การทำความดีเด็กๆ ก็จะได้รับข่าวสารนั้นๆ เราก็จะนำสิ่งดีมาสู่เด็กของเราด้วย
สิ่งที่สำคัญคือการเป็นต้นแบบ ผมไปวัดพร้อมกับเด็ก ผมใส่บาตรในวันสำคัญ ผมเชิญชวนเด็กๆ ไปวัดในวันสำคัญต่างๆ การพูดจา เราก็ต้องเป็นแบบอย่างที่พูดกับเด็กพูดกับผู้ใหญ่
โดยผมใช้หลักพรหมวิหาร 4 ในการประเมินคุณธรรมจริยธรรมของผม โดยเฉพาะความเมตตา เราได้ใช้ต่อทุกคนเลย ทั้งเพื่อนครู เด็กๆ ของเราด้วย ไม่ว่าเขาจะอยู่ในกลุ่มไหน กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเรียนอ่อน กลุ่มเรียนเก่ง
เด็กทุกคนในโรงเรียนมีความเสมอภาคกัน เช่น ในห้องแนะแนวเราก็เปิดโอกาสให้ทั้งคุณครู เด็กมาใช้เครื่องถ่ายเอกสารที่ห้องแนะแนวได้ โดยเราต้องสร้างที่ตัวเราก่อน การมีเมตตาให้กันอย่างน้อยมันก็เป็นบุญกุศลกับตัวเรา
“การบูรณาการศีลธรรมกับเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างไร”
เราไม่สามารถให้คนทุกคนคิดเหมือนเราได้ครับ คือต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อนครับ เรารักษาศีล 5 ก่อนและลงสู่เด็ก เราก็เชื่อมโยงเด็กเข้าสู่โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เพราะในโครงการฯ มีกิจกรรม มีสมุดบันทึกความดีให้เด็กได้สนุก
มีกิจกรรมให้ทำไม่น่าเบื่อ ทั้งเชียร์ให้เด็กส่งผลงาน การทำคลิปสั้นพูดเรื่องราวการเปลี่ยนแปลง sila 5 เด็กๆ
ส่งคลิปเรื่องราวการเปลี่ยนแปลง sila 5 smart idol การทำคลิปการนำคุณธรรมการพัฒนาโรงเรียน Hands
up Media ฝึกให้เด็กทำงานเป็นทีม
ผลิตสื่อการนำเสนอผลงานการทำโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ sila 5 smart school
โดยมีครูและผู้บริหารเรียนรู้และเห็นชอบ เราต้องเป็นคนเริ่มก่อนแล้วเราจะมีเครือข่ายที่ต่อยอดมากขึ้น จาก 1 เป็น
10 และจะขยายไปทั้งโรงเรียน
โดยให้เริ่มจากจุดเล็ก ๆ ก่อน ถ้าเราทำแล้วเกิดผลดีให้เราเป็นตัวตั้งต้นก่อน หลังจากนั้นค่อยขยายผลไป
ทีละนิด อย่าคาดหวังว่าจะสำเร็จในวันเดียวเทอมเดียว แต่มันจะเริ่มพัฒนาไปตามลำดับของมันเอง การสอนคุณธรรม
ไม่ใช่จะต้องไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกลม หรือไปเข้าค่ายคุณธรรม
เราต้องบูรณาการสู่วิชาต่างๆ เริ่มจากการวิเคราะห์รายวิชาของเราก่อนว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไร เด็กจะมีความ
รู้สึกดี มีความสุขที่ได้ออกนอกห้อง ได้ไปวัด ได้ไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมความดี ได้ทำสมุดบันทึกความดี มันก็จะซึมซับและหล่อหลอมตัวของเด็กไปเรื่อย ๆ
เมื่อความดีไม่มีกรอบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ผมใช้วิธีการสอนเด็กให้ทำสมุดบันทึกความดีด้วยการติ๊กตามช่องในสมุดบันทึกความดี ทำก็ติ๊ก ไม่ทำก็ไม่ติ๊ก
โครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 มีสมุดบันทึกความดี วิธีการทำสมุดก็ง่าย น่าสนใจ มี QR Code ในสมุดทำให้ผมได้ศึกษาไปพร้อมกับเด็กไปด้วย สื่อวิดีโอศีล 5 เขาบูรณาการได้ดี รู้สึกว่ามันน่าสนุก และน่าสนใจกว่าสมัยที่ผมเรียน
ทำความดีแล้วเราก็นำไปลงในสื่อ social เพื่อให้เด็กได้กดไลน์ กดแชร์ คอมเมนต์ในเพจของเราก็เป็นสังคมของเขา และเขาก็จะภูมิใจในการทำความดี ในเพจก็ไม่ใช่แค่เด็กในโรงเรียน มีเด็กข้างนอก ศิษย์เก่า ผู้ปกครองก็จะเห็นว่าโรงเรียนทำอะไร มีกิจกรรมเพื่อพัฒนาลูกๆ เขาอย่างไร ก็มีผู้ปกครองมาชื่นชม เด็กก็ภูมิใจ เราก็สามารถสอนได้ว่าเมื่อเราทำความดี ก็มีคนชื่นชมให้กำลังใจเราอยู่
การบูรณาการพระพุทธศาสนากับวิชาแนะแนวของผม เด็กเขาสนุก สามารถซึมซับได้อย่างมีความสุข เข้ามาเรียนแล้วมีแรงกระตุ้น เกิดแรงผลักดันที่ดีในการทำงาน ในการใช้ชีวิต เราทำสิ่งไหนเราก็ได้สิ่งนั้น เมื่อเขาทำสิ่งที่มีประโยชน์เขาก็จะได้รับความสุข
ส่วนการเชื่อมโยงกับครูในโรงเรียน เราก็คอยชี้แนะ ชักชวนให้ครูตรวจสมุดบันทึกความดี ถ้าครูสนใจก็สามารถทำร่วมกันกับเด็กได้ และสามารถได้เกียรติบัตรเมื่อผ่านเกณฑ์
เพราะเราต้องบอกประโยชน์ที่ครูจะได้รับ เพื่อครูจะได้นำมาพัฒนาตนเอง เป็นหลักฐานของการเลื่อนวิทยฐานะ
ในหน้าที่ของตนเอง และเป็นความภูมิใจในตัวเองในการพัฒนางาน พัฒนาเด็กของครูเองด้วย
“ปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน”
ในช่วงแรกเราจะเป็นคนตรวจสมุดบันทึกความดีทั้งหมด 265 คน เราคิดว่าเราไหว ตรวจด้วยปากกาสีแดงในทุกครั้งทุกสัปดาห์ แต่พอมีกิจกรรมอื่น ๆ มากเข้าก็เริ่มตรวจไม่ทัน แต่ยังใช้ปากกาแดงชื่นชมเด็กอาจน้อยกว่าช่วงแรก ๆ บ้าง แต่ก็ส่งทันเวลาที่โครงการกำหนด 12 สัปดาห์ ก็มีเสียงบ่นบ้าง แต่เราก็ไม่สนใจ เพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่เด็ก ของรางวัล เงินรางวัลต่างๆ เรามอบให้เด็กทั้งหมด จนเด็กตั้งข้อสงสัยว่าส่วนไหนละของครูปุ้ย
สิ่งที่ครูทำครูไม่หวังที่ครูจะต้องได้ แต่สิ่งที่เด็กได้คือสิ่งที่ครูหวัง คือ เราทำเพื่อเด็ก ทำเพื่อเขา เด็กสัมผัสได้จริง เราทำงานแล้ว เราได้รับเงินเดือน แต่เด็กที่ทำคลิปบางคน ฐานะทางบ้านก็ไม่ดี
เราก็อยากสนับสนุนให้ความดีอยู่คู่กับตัวเขา เมื่อเขาทำความดีก็ต้องได้รับผลดีๆ
“ผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น”
ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดของเด็ก คือ การใช้คำพูดที่ไม่ดีน้อยลง เด็ก ๆ แทบไม่ทะเลาะกันเลย
เด็กมีสัมมาคารวะกับเพื่อน สิ่งหนึ่งที่เด็กโรงเรียนบดินทร์ นนทบุรี แสดงออกเมื่อพบคุณครู คือ การหยุดและทำความ
เคารพยกมือไหว้ เราสร้างความสนิทสนนกับเด็กเพราะอยากให้เด็กมาโรงเรียนแล้วมีความสุข
การทำสมุดบันทึกความดี สร้างความสนใจให้กับเด็กในช่วงเรียนออนไลน์ เราก็เชิญชวนให้เด็กได้ทำสมุดทำที่บ้านทำง่ายๆ ครูไม่บังคับ เด็กไม่ต้องกลัวว่าไม่ทำครูปุ้ยจะให้ ไม่ผ่าน
ครูแค่อยากเห็นเด็กๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากการลงมือทำ สัปดาห์แรกอาจทำได้คะแนนน้อย 15 คะแนนแต่ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป ก็ให้พัฒนามากขึ้น เราจะได้พัฒนาตนเอง และให้ผลที่ชัดเจน เพราะความดีมันบังคับกันไม่ได้
การจัดการเรียนการสอนในยุคปัจจุบัน ต้องอาศัยการบูรณาการให้มากขึ้น ยิงปืนนัดเดียวต้องได้ผลมากกว่า 2 ตัว เราก็จะปลูกฝั่งให้กับเด็กด้วย เช่น นักเรียนทำสมุดบันทึกความดี เด็ก ๆ ก็สามารถคัดลายมือสวยๆ เราก็จะได้วิชาภาษาไทย
เด็กนำเรื่องความดีสู่สื่อวิดีโอก็จะได้ในวิชาหน้าที่พลเมือง ไม่ใช่เพียงแต่เด็ก ผมก็เสนอเรื่องนี้ให้กับที่ประชุมของโรงเรียนกับฝ่ายวิชาการ ทุกวันนี้เด็ก ๆ เราเครียดกับการต้องส่งผลงานให้กับครูแต่ละวิชาเป็นจำนวนมาก
แต่ถ้าเรานำสมุดบันทึกความดีมาบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องก็จะลดงานของเด็กให้น้อยลง เด็ก ๆ ก็จะมีความสุขในการเรียนมากขึ้น รวมจนถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ถ้ามันสามารถส่งเสริมสนับสนุนกันได้ งานก็จะน้อยลงประสิทธิภาพก็จะเพิ่มมากขึ้น “เด็กจะมีความสุขมากขึ้น กับงานแค่ชิ้นเดียว เมื่อเราบูรณาการ”
“การวางแผนการทำงานศีลธรรมในอนาคต”
เนื่องจาก Best Practice ของโรงเรียนคือคุณธรรม เราทำผลงานเกี่ยวกับคุณธรรมเยอะมาก การที่เราจะเป็นโรงเรียนคุณธรรมได้ มันไม่ใช่ทำเพียงเรื่องเดียว ต้องมีหลายๆ เรื่องที่เข้ามาสนับสนุน
เด็กเราต้องมีคุณธรรม โดยในเกณฑ์ของโครงการโรงเรียนดีครูดีไม่มีอบายมุข ผู้บริหาร ครู นักเรียนต้องทำทุกคน ต่อยอดสมุดบันทึกความดีต้องทำต่อเนื่อง เพราะจะได้เป็นหลักฐานในการนำเสนอผลงานโรงเรียนคุณธรรม
ถ้าผู้บริหาร คณะครู นักเรียนเป็นคนดีมีคุณธรรมกิจกรรมทุกอย่างก็จะเชื่อมโยงได้ พัฒนามากไปยิ่งขึ้น โดยเราทำจากจุดเล็กๆ มีกิจกรรมส่งเสริมตลอดเวลา ที่จะนำนักเรียนเข้าสู่ชุมชน ในการทำบุญ การบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ
เราก็จะแทรกซึมเข้าหาชุมชนทีละนิดครับ ให้เด็กมีความสัมพันธ์กับชุมชน เพราะวัดเป็นศูนย์รวมของชุมชน เราก็จะนำเด็กเข้าร่วมงานในชุมชน งานที่จัดที่วัดต่างๆ เด็กก็จะได้เรียนรู้วิถีชาวบ้าน วิถีชุมชนเป็นอย่างไร ทำบุญแล้วได้อะไร เด็กก็ได้เกิดการเรียนรู้
“เรือจ้าง 5G" ในความหมายของครูปุ้ย
เราต้องแยกความหมาย
5 G คือ ทันสมัย
เรือจ้าง คือ ครูทั่วไป เราเป็นครูที่ไม่แสวงหากำไร เรามีเพียงเงินเดือน เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ส่งเด็กให้ถึงฝั่ง เมื่อถึงฝั่งแล้วก็ยังต้อง แนะแนว เฝ้ามอง ให้คำปรึกษาให้ลูกศิษย์ของเราเป็นคนดีในสังคมตลอดไป
เรือจ้าง 5G คือ ครูทุกวันนี้ต้องทันสมัย เราต้องอยู่รวมกันให้ได้ เราคงไม่แบ่งว่าใครเป็นครูรุ่นเก่า ใครเป็นครูรุ่นใหม่ แต่เราจะรวมทุก ๆ Gen เข้าด้วยกัน ครูที่ทันสมัย ก็ต้องได้รับประสบการณ์จากครูรุ่นเก่า เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะไม่
แบ่งแยก ครูเราจะร่วมพัฒนาเด็ก ๆ ของเราไปด้วยกัน เพื่อเป้าหมายของเด็กที่เขาตั้งไว้ สำเร็จไปพร้อมๆกัน
รับชมบทสัมภาษณ์เต็มได้