สอนเด็กให้ทำงานเป็นทีมด้วยผู้นำ 4 ทิศ: จากความเงียบ....สู่พลังแห่งการเรียนรู้

ในห้องเรียนที่มีนักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กเก็บตัว ไม่ค่อยคุยกัน มักพบความท้าทายในการสร้างปฏิสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมในชั้นเรียน แต่จากประสบการณ์อันล้ำค่าของครูกาญจนา จารีย์ หรือ "ครูเบียร์" แห่งโรงเรียนบ้านเนินสุวรรณ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การสร้างพื้นที่ปลอดภัยควบคู่กับการประยุกต์ใช้แนวคิด "ผู้นำ 4 ทิศ" สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ในห้องเรียน

เคล็ดลับความสำเร็จ : รู้ใจ-ใช้ถูกทาง ด้วยผู้นำ 4 ทิศ
สูตรสำเร็จการสอนแบบเข้าใจเพื่อนร่วมทีม
การสอนให้เด็กๆ รู้จักตัวตนและจุดแข็งของตนเองเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ค้นพบตัวตนที่แท้จริง
นำพานักเรียนสู่การค้นพบบุคลิกภาพผ่านกิจกรรมผู้นำ 4 ทิศ
เปิดโอกาสให้สำรวจและเข้าใจจุดแข็งของตนเองอย่างลึกซึ้ง
ปลูกฝังแนวคิดว่าทุกบุคลิกภาพล้วนมีคุณค่าและความพิเศษที่แตกต่างกัน
2. จับคู่งานถูกใจ ตามสไตล์ 4 ทิศ
มอบหมายภารกิจที่สอดคล้องกับจุดแข็ง:

กระทิง (D- Dominance) :นักเรียนที่มีลักษณะนิสัยคล้ายกระทิงมักเป็นผู้นำธรรมชาติและมีความมั่นใจสูง กิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา เช่น การเป็นหัวหน้ากลุ่มในโครงการกลุ่ม, การนำเสนอโครงงาน, หรือการแข่งขันวาทศิลป์ ที่ต้องการความกล้าหาญและความเป็นผู้นำในการจัดการทีม

อินทรี (I - Influence) :นักเรียนที่มีลักษณะเป็นอินทรีมักเป็นบุคคลที่ชอบสื่อสารและมีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น กิจกรรมที่เหมาะสม เช่น งานแสดงความสามารถ, การแสดงละครหรือการเต้น, หรือการเป็นตัวแทนกลุ่มในการประชุมหรือสัมมนา

หนู (S- Steadiness) :นักเรียนที่มีลักษณะนิสัยคล้ายหนูมักใส่ใจในรายละเอียดและชอบงานที่มีความเสถียร กิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การทำโครงการวิจัย, การแข่งขันทำแผนธุรกิจ, หรือกิจกรรมที่ต้องการการวางแผนอย่างรอบคอบและความเอาใจใส่เช่นการจัดการห้องสมุดหรือการเป็นผู้ช่วยสอน

หมี (C- Conscientiousness) :นักเรียนที่มีลักษณะนิสัยคล้ายหมีมักมีความสามารถในการวิเคราะห์และความรอบคอบ กิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ, การแข่งขันทำโครงงานวิทยาศาสตร์, หรืองานที่ต้องการการตรวจสอบและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด
เมื่อความเงียบกลายเป็นพลัง: เรื่องราวแห่งความสำเร็จ
ครูเบียร์ได้นำความรู้เรื่องผู้นำ 4 ทิศที่ไปสอนเด็กนักเรียนชั้น ป.6 โดยก่อนการอบรม เด็กๆ ในห้องนี้เป็นเด็กแบบ Introvert ค่อนข้างเก็บตัว ไม่สุงสิงกับห้องอื่น หลังจากที่ครูเบียร์นำเรื่องผู้นำ 4 ทิศไปสอน ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้จักตัวเองมากขึ้น เข้าใจทั้งจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเอง และยังได้เรียนรู้จักเพื่อนร่วมห้องมากขึ้นด้วย ทำให้เด็กๆ รู้ว่าควรแบ่งงานให้เพื่อนอย่างไร โดยคำนึงถึงจุดเด่นและจุดด้อยของเพื่อน ลดความคาดหวังในตัวเพื่อนลง ส่งผลให้ความขัดแย้งในห้องเรียนลดลง และเด็กๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น

บทเรียนแห่งการเปลี่ยนแปลง : จากห้องเรียนเงียบสู่พื้นที่แห่งพลัง
การสอนเด็กเก็บตัวไม่ใช่ข้อจำกัด แต่เป็นโอกาสอันล้ำค่าในการค้นพบและพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนเร้น ผ่านการผสานศาสตร์แห่งผู้นำ 4 ทิศ ครูสามารถสร้างสรรค์ห้องเรียนที่ทุกคนเติบโตและเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เพราะความเงียบไม่ได้หมายถึงการไร้ซึ่งพลัง และการเก็บตัวไม่ได้หมายถึงการขาดศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนา
บทความที่เกี่ยวข้อง
Facilitation สู่การสร้างห้องเรียนแห่งความสุข: มุมมองจากคุณครูภาคสนาม:
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2d4
ครูเสกสันต์ ณ.เชียงใหม่ จากครูดุสู่ครูใจดี : เส้นทางการสร้างห้องเรียนแห่งความสุข
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2e4
ครูถาวร ศรีทุม จากความคาดหวัง สู่ความเข้าใจ : ความสุขของครูที่นักเรียนกล้าเข้าหา
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64w2f4
ครูสมหทัย แคว้นไธสง เปิดประตูสู่ความเข้าใจ : การใช้การฟังเชิงลึกเพื่อเปลี่ยนแปลงห้องเรียน
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x274
ครูอลิศรา โพธิ์กิ่ง การสร้างภาวะความเป็นผู้นำในรั้วโรงเรียน :Ep1 เรื่องการสื่อสารที่ดี
https://sila5.com/blog/blog/detail/var/64x284
ติดตามข่าวสาร คอร์สอบรมต่างๆ ทาง FB โครงการ : https://www.facebook.com/sila5schoolproject
ข้อมูลโครงการโรงเรียนรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพฯ : https://www.sila5.com/school/